Blogger templates

11/15/2554

ลำดับพัฒนาการทางประวัติศาสตร์กาญจนบุรี สมัยสุโขทัยถึงอยุธยา


v ลำดับพัฒนาการทางประวัติศาสตร์

สมัยประวัติศาสตร์


กาญจนบุรีสมัยกรุงสุโขทัย (พ.ศ.1781-1921)


ถึงแม้ในจารึกพ่อขุนรามคำแหงจะไม่ได้กล่าวถึงเมืองกาญจนบุรี  จึงไม่ปรากฏบทบาททั้งทางด้านทหาร การปกครองหรือการติดต่อค้าขายที่มีความสัมพันธ์กับสุโขทัย  แต่จากร่องรอยอิทธิพลขอมที่ปรากฏที่ปราสาทเมืองสิงห์สันนิษฐานว่าเมืองกาญจนบุรีนั้นเป็นเมืองที่สำคัญเมืองหนึ่งอันเป็นเส้นทางสัญจรของพ่อค้า นักเดินทางก่อนที่จะเดินไปยังเมืองต่างๆ เช่น เมืองมะริด เมืองทวาย เป็นต้น ผ่านทางด่านเจดีย์สามองค์  ด่านบ้องตี้



ด่านบ้องตี้ (ถ่ายจากถนนบ้องตี้) อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี       ด่านเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี

ลำดับพัฒนาการทางประวัติศาสตร์จังหวัดกาญจนบุรี : สมัยก่อนประวัติศาสตร์

v ลำดับพัฒนาการทางประวัติศาสตร์

การตั้งถิ่นฐานสมัยก่อนประวัติศาสตร์


จากความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่  ทำให้จังหวัดกาญจนบุรีเป็นพื้นที่ที่มนุษย์เข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่อาศัยมาเป็นเวลานานย้อนกลับไปจนถึงสมัยก่อนประวัติศาสตร์  เป็นยุคสมัยที่มนุษย์ยังดำรงชีวิตด้วยการเก็บของป่าล่าสัตว์และอพยพตามฝูงสัตว์  อาศัยอยู่ตามถ้ำหรือเพิงผา  ต่อมาจึงพัฒนามาสู่การดำรงชีวิตด้วยการเพาะปลูก  เลี้ยงสัตว์  เริ่มมีการตั้งหมู่บ้านบนที่ราบใกล้แหล่งน้ำซึ่งเหมาะแก่การเกษตรกรรม  ต่อมาจึงพัฒนาเทคโนโลยีด้วยการนำโลหะมาใช้ประโยชน์  เกิดการรวมตัวของสังคมที่มีขนาดใหญ่ขึ้น  มีการติดต่อสัมพันธ์กับชุมชนอื่นๆ ก่อนหน้าที่จะมีการเขียนหรือจดบันทึก  การใช้ลายลักษณ์อักษรที่สามารถปะติดปะต่อเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ได้


ดร.แวน  ฮิกเกอเรน
(Dr. H.R. Van  Heekeren)


11/12/2554

ทรัพยากรธรรมชาติจังหวัดกาญจนบุรี


v ทรัพยากรธรรมชาติ

จังหวัดกาญจนบุรีเป็นจังหวัดที่มีทรัพยากรธรรมชาติที่หลากหลายทั้งป่าไม้ แร่ธาตุ ดิน น้ำ ฯลฯ อย่างไรก็ตามความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรเหล่านี้ก็ย่อมมีวันหมดไปไม่วันใดก็วันหนึ่งหรือลดจำนวนลง  หากไม่มีการอนุรักษ์หรือนำมาใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า  การพัฒนาที่ดีต้องควบคู่ไปกับการดูแลรักษา การอนุรักษ์ โดยไม่นำทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่นั้นมาสร้างผลประโยชน์เฉพาะกลุ่มคนหรือนำมาใช้อย่างฟุ่มเฟือย

ทรัพยากรดิน   พื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดกาญจนบุรีมีภูเขาสลับซับซ้อน  พื้นที่ที่เหมาะสำหรับเกษตรกรรมคือ  ที่ราบระหว่างภูเขาซึ่งมีแม่น้ำและลำน้ำสายต่างๆ ไหลผ่าน  เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีหินปูน  หินแกรนิต  หินแกรไนโอออไรท์  หินไนล์  หินดินดาน  หินควอทโซฟีลไลท์  เป็นวัตถุต้นกำเนิดดิน  ที่ราบระหว่างหุบเขาและสองฝั่งแม่น้ำจึงมีลักษณะเป็นตะกอนที่เกิดจากการสลายตัวของหินดังกล่าวแล้วถูกน้ำพัดพามาทับถม  และเนื่องจากพื้นที่ส่วนนี้มีหินปูนเป็นส่วนใหญ่  ดินจึงมีปฏิกิริยาเป็นกลางหรือเป็นด่าง  มีความอุดมสมบูรณ์ปานกลางถึงดี  จึงเป็นแหล่งเพาะปลูกพืชไร่ที่สำคัญของประเทศเช่น อ้อย  ข้าวโพด  มันสำปะหลัง และสับปะรด  ส่วนในบริเวณที่ราบต่ำใช้ปลูกข้าวแต่มีเนื้อที่ไม่มากนัก

ลักษณะภูมิอากาศจังหวัดกาญจนบุรี


v ลักษณะภูมิอากาศ

            จังหวัดกาญจนบุรีอยู่ในเขตภูมิอากาศแบบฝนเมืองร้อนเฉพาะฤดู Tropical Savannah หรือมีลักษระ Aw ตามระบบ Koppen กล่าวคือมีอากาศแห้งแล้งในฤดูหนาว ส่วนฤดูร้อนมีลักษณะอากาศแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคมได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งพัดมาจากทะเลอันดามัน ทำให้ช่วงระยะเวลานี้มีฝนตกและความชื้นสูง การแผ่กระจายของฝนในจังหวัดกาญจนบุรีแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดในบริเวณพื้นที่ตอนบนในเขตอำเภอสังขละบุรี อำเภอทองผาภูมิและอำเภอไทรโยคมีฝนตกค่อนข้างชุกและมีช่วงการกระจายของฝนมากกว่าตอนล่าง ลักษณะภูมิอากาศของจังหวัดกาญจนบุรี แบ่งเป็น 3 ฤดูกาลดังนี้

ลักษณะภูมิประเทศจังหวัดกาญจนบุรี


v ลักษณะภูมิประเทศ

            ลักษณะภูมิประเทศของจังหวัดกาญจนบุรีปะกอบด้วยทิวเขา หุบเขาและที่ราบลุ่มแม่น้ำ โดนพื้นที่ด้านเหนือและตะวันตกของจังหวัดเป็นเทือกเขา แล้วค่อย ๆ ลาดลงด้านทิศใต้และทิศตะวันออก แบ่งออกเป็น เขตใหญ่ ๆ ได้แก่

1. เขตภูเขาและที่ราบสูง
พื้นที่ด้านเหนือของจังหวัด ในอำเภอศรีสวัสดิ์และทองผาภูมิ มีลักษณะเป็นเทือกเขาต่อเนื่องมาจากเทือกเขาถนนธงชัยถัดไปจาด้านตะวันตกของจังหวัดเป็นเทือกเขาตะนาวศรี ซึ่งกั้นพรมแดนระหว่างประเทศพม่าทอดยาวลงไปทางใต้อยู่ในพื้นที่ของำอำเภอสังขละบุรี ทองผาภูมิ ไทรโยค เมืองกาญจนบุรีและด่านมะขามเตี้ย บริเวณนี้เป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำธารของจังหวัด มีภูเขาที่มีความสูงตั้งแต่ 1,000 เมตรขึ้นไป ในตอนเหนือของจังหวัดโดยเฉพาะในบริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เช่น เขาใหญ่ เขาเคลกู เป็นต้น
ส่วนบริเวณที่มีระดับความสูง 400 – 1,000  เมตร เป็นภูเขาในลุ่มน้ำแควใหญ่และแควน้อยในเขตอำเภอสังขละบุรี อำเภอทองผาภูมิ อำเภอศรีสวัสดิ์และอำเภอเมืองกาญจนบุรี และส่วนที่มีความสูง 100 – 400 เมตร อยู่ในเขตภูเขาบริเวณอำเภอไทรโยค อำเภอบ่อพลอยและอำเภอศรีสวัสดิ์

2. เขตที่ราบลูกฟูก
พื้นที่ด้านตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัด มีลักษณะเป็นที่ราบเชิงเขาสลับกับเนินเขาเตี้ย ๆ อยู่ที่บริเวณอำเภอบ่อพลอย อำเภอเลาขวัญและบางส่วนของอำเภอพนมทวน

3. เขตที่ราบลุ่มแม่น้ำแม่กลอง
 พื้นที่ทางใต้ของจังหวัดมีลักษณะเป็นที่ราบทำให้ดินมีสภาพความอุดมสมบูรณ์ อยู่ในบริเวณบางส่วนของอำเภอเมืองกาญจนบุรี อำเภอพนมทวน อำเภอท่าม่วงและอำเภอท่ามะกา จึงทำให้เป็นพื้นที่เกษตรกรรมในการปลุกอ้อยและนาข้าวตลอดปี

ลักษณะทางธรณีวิทยาจังหวัดกาญจนบุรี


v ลักษณะทางธรณีวิทยา


ที่มา โครงการศึกษาเบื้องต้นเพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยว จังหวัดกาญจนบุรี โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับสถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย


            โครงสร้างส่วนใหญ่ของจังหวัดเป็นหินที่จัดอยู่ในหมู่หินตะนาวศรี ประกอบด้วย หินปูน หินทราย หินดินดาน และหินแปร ประเภทชนวน หินควอร์ตไซต์ หินซิสต์ ในบรรดาหินเหล่านี้ หินปูนจะพบอยู่เป็นบริเวณกว้างมากที่สุดของจังหวัด ทิวเขาถนนธงชัยกลางและทิวเขาตะนาวศรีมีหินแกรนิตในยุครีเทเซียสเป็นแกนกลางของภูเขาจะเห็นหินแกรนิตปรากฏอยู่ตามบริเวณที่หินซึ่งเคยปกคลุมอยู่จะพบหินในทรายและหินดานปนปูนในยุคแคมเบียน นอกจากนี้ยังมีหินอัคนีชนิดหินบะซอลต์ปรากฏอยู่ในบริเวณเล็ก ๆ ที่อำเภอบ่อพลอย ปัจจุบันเป็นแหล่งขุดพลอยที่สำคัญของจังหวัด
            จากโครงสร้างพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นแบบ ภูเขาหินปูน (Karts Topography) กล่าวคือ บริเวณที่มีหินปูนรองรับเป็นบริเวณกว้าง มีอาณาเขตต่อเนื่องเข้าไปในจังหวัดราชบี ภูเขามียอดแหลมมีรูปร่างต่าง ๆ สวยงาม สลับด้วยหลุมยุบและหุบเขาเป็นแนวยาวและบางแห่งเป็นหน้าผาสูงชัน ในบริเวณภูเขาหินปูนจะมีเส้นทางน้ำไม่ต่อเนื่อง สายน้ำบางแห่งไหลเข้าไปในภูเขา หรือซึมหายไปลงสู่ใต้ดินซึ่งเป็นบริเวณหลุมยุบ เช่น บริเวณบึงเกริงกะเวียมีหลุมยุบที่ก้นบึ้งเป็นหินปูน นอกจากนี้บริเวณเขาหินปูนยังทำให้เกิดกระบวนการที่หินปูน ซึ่งแคลเซียมคาร์บอเนตละลายต่อเนื่องกันเป็นถ้ำยาว และบางแห่งยังมีน้ำไหลผ่านใต้ดิน เรียกว่า ธารลอด และภายในถ้ำหินปูนยังมีหินงอกและหินย้อยที่มีลักษณะสวยงาม ส่วนในบริเวณท้องน้ำที่เป็นน้ำตกจะมีหินปูนจับตามบริเวณที่พักน้ำเกิดเป็นน้ำตกที่มีลักษณะหลายชั้นลดหลั่นสวยงาม ส่วนใหญ่เป็นหินที่ไม่ลื่น เนื่องจากกระบวนการจับตัวของหินปูนเกิดขึ้นตลอดเวลา และน้ำที่มีหินปูนละลายอยู่เป็นสาเหตุทำให้น้ำกระด้าง

การคมนาคมจังหวัดกาญจนบุรี


v การคมนาคม

            เส้นทางคมนาคมของจังหวัดกาญจนบุรีมีความสำคัญต่อวิถีชีวิตของประชากรโดยทั่วไป เป็นสิ่งที่อำนวยต่อการตั้งถิ่นฐานที่อยู่อาศัย สามารถใช้ได้หลายหลายเส้นทาง ดังนี้

1.  การคมนาคมทางรถยนต์           ในปัจจุบันเป็นเส้นทางคมนาคมที่สำคัญที่สุดของจังหวัด ถนนทุกสายที่เชื่อมต่อระหว่างชุมชนเป็นถนนลาดยางและถนนลูกรังอัดแน่นเกือบทั้งหมด ทางหลวงแผ่นดินที่สำคัญได้แก่
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 323         แยกออกจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 บริเวณอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ผ่านจังหวัดกาญจนบุรีที่อำเภอท่ามะกา อำเภอท่าม่วง อำเภอไทรโยค ถึงด่านเจดีย์สามองค์ที่สังขละบุรี
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลย 324           เป็นเส้นทางเชื่อจังหวัดกาญจนบุรีกับจังหวัดสุพรรณบุรี โดยผ่านอำเภอพนมทวน อำเภอเมืองกาญจนบุรี
- ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 3199          จากอำเภอเมืองถึงอำเภอศรีสวัสดิ์ สิ้นสุดที่เขื่อนศรีนครินทร์ ต่อจากนั้นเป็นถนนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตเชื่อมต่อไปยังอำเภอศรีสวัสดิ์
- ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 3086           เป็นเส้นทางใช้ติดต่อระหว่างอำเภอเมืองกาญจนบุรีกับ
อำเภอบ่อพลอยจรดอำเภอด่านช้างในจังหวัดสุพรรณบุรี

ที่ตั้งและอาณาเขตจังหวัดกาญจนบุรี


v ที่ตั้งและอาณาเขต

กาญจนบุรีเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันยาวนาน  สภาพภูมิประเทศเต็มไปด้วย ภูเขา ป่าไม้นานาพันธุ์มีพื้นที่ใหญ่เป็นลำดับที่ 3 ของประเทศ เนื้อที่ 19,483 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 12,176,968 ไร่ เป็นพื้นที่ป่าไม้ประมาณ 7.4 ล้านไร่ เป็นพื้นที่ถือครองทางการเกษตร 2.5 ล้านไร่ มีอาณาเขตติดต่อกับสหภาพพม่าระยะทางประมาณ 370 กิโลเมตร  แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 13 อำเภอ 95 ตำบล 959 หมู่บ้าน

จังหวัดกาญจนบุรีอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครไปทางทิศตะวันตก ระยะทาง 129 กิโลเมตรตามเส้นทางสายนครปฐม บ้านโป่ง กาญจนบุรี มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดอื่นดังนี้

ทิศเหนือ            ติดต่อ จังหวัดตากและอุทัยธานี
ทิศใต้                ติดต่อ จังหวัดราชบุรี
ทิศตะวันออก     ติดต่อ จังหวัดสุพรรณบุรี และนครปฐม
ทิศตะวันตก       ติดต่อ สหภาพพม่า



ภาพแผนที่แสดงที่ตั้งและอาณาเขตจังหวัดกาญจนบุรี ที่มา (สำนักงานจังหวัดกาญจนบุรี, 2549)


ข้อมูลพื้นฐานจังหวัดกาญจนบุรี

จังหวัดกาญจนบุรี




แคว้นโบราณ ด่านเจดีย์ มณีเมืองกาญจน์ สะพานข้ามแม่น้ำแคว แหล่งแร่น้ำตก


เมืองกาญจนบุรีมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของชาวจังหวัดกาญจนบุรีและชาวไทยทั้งประเทศ เนื่องจากเคยเป็นเมืองหน้าด่านสำคัญทาง ด้านตะวันตก และยังปรากฏสถานที่สำคัญต่าง ๆ เช่น วัดนางพิม วัดป่าเลไลยก์ วัดขุนแผน ซึ่งอยู่ในสภาพรกร้าง เมืองกาญจนบุรีเก่าตั้งอยู่ที่บ้านท่าเสา ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมืองกาญจนบุรี ห่างจากที่ตั้งเมืองกาญจนบุรีปัจจุบันขึ้นไปทางต้นน้ำแควใหญ่ประมาณ 18 กิโลเมตร เนื่องจากรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ฝ่ายพม่าได้ดำเนินแผนยุทธศาสตร์เปลี่ยนไปจากเดิม โดยมีการยกกองทัพเรือมาตามลำน้ำแควน้อยสู่เมืองกาญจนบุรี สมเด็จกรมพระราชวังบวรสุรสิงหนาท จึงทรงย้ายที่ตั้งฐานทัพจากเมืองกาญจนบุรีเก่ามาตั้งที่ตำบลปากแพรกซึ่งเป็นที่ตั้งเมืองกาญจนบุรีปัจจุบัน ต่อมารัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างกำแพงเมืองอย่างถาวร และเป็นที่ตั้งเมืองกาญจนบุรีตั้งแต่ พ.. 2374




v ที่ตั้งและอาณาเขต
v ลักษณะภูมิอากาศ
v ทรัพยากรธรรมชาติ

11/11/2554

ตำนานและประเพณี วันไหว้พระจันทร์

ประเพณีไหว้พระจันทร์นั้นนอกจาก ประเทศไทยแล้ว ประเทศอื่นๆทั่วโลกที่มีชน ชาวจีนไปตั้งถิ่นฐาน ก็จะปฏิบัติเช่น เดียวกัน คือทุกปีในวันขึ้นสิบห้าค่ำเดือนแปด ชาวจีนจะตั้งโต๊ะจัดของสักการะบูชาพระจันทร์ เพื่อเป็น การขอพรให้กับครอบครัวและให้กับชีวิตของ ตนเอง ของแต่ละอย่างบนโต๊ะก็จะมีความหมาย ต่างๆ กันไปหากวิธีการจัดโต๊ะของแต่ละประเทศก็ จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสิ่งของที่หาได้และผลไม้ ในประเทศที่มีซึ่งโดยปรกติก็จะไม่ฟันธงกำหนด ตายตัว หากแต่ผลไม้ที่ใช้ก็จะเน้นให้เป็นผลกลมเพื่อ ความกลมกลึงของชีวิตและหมายถึงความกลมของ พระจันทร์





          แต่ที่จะขาดไม่ได้เลยคือขนมไหว้พระจันทร์ ซึ่งจะเป็นขนมอบใส่ไส้ผลไม้กวนหรือถั่วแดงกวน เม็ดบัว และไข่เค็มเฉพาะไข่แดง สิ่งของอย่างอื่นๆ บนโต๊ะก็จะประกอบไปด้วยสิ่งละอันพันละน้อย ที่มีความ หมายแตกต่างกันไปอย่างเข่น ขนมอี้ ซึ่งเป็นแป้งลูกกลมๆสีแดงสดใสใส่ในน้ำเชื่อมหวาน ซึ่งเปรียบเหมือนชีวิตที่หวานสดชื่น




          ขนมโก๋ ที่เป็นแป้งหวานสีขาว รูปทรงต่างๆ ลวดลายสวยงามเพื่อเป็นการขอผิว พรรณที่ขาวสวย ผลไม้ต่างๆ 5 ชนิดที่มีผลกลม เหมือนพรที่ขอเพื่อให้ชีวิตสุขสดชื่นรวมไปถึง ชีวิต ครอบครัวที่มีความสุขความสามัคคี ในบ้านเจดีย์น้ำตาล เป็นตัวแทนของ ปราสาทแห่งสวรรค์ถั่วหวานขนมหวาน เคลือบน้ำตาล ขนมเปี๊ยที่มีอักษรมงคล ประทับสีแดงอยู่กลางขนม ของประดับอื่นๆ ก็จะมีกระดาษรูปเซียน 8 องค์ คำกลอนต่างๆ ในกระดาษสีแดงสดใส เทียนดอกใหญ่ สีแดงที่เขียนคำขอพรไว้ กิ่งหลิว ดอกไม้สีสัน สดสวยอ้อยต้นโตเพื่อนำมาทำ เป็นซุ้มประตู โคมไฟลวดลายงามตา การตั้งโต๊ะจะต้องตั้งให้เรียบร้อยก่อน พระจันทร์จะลอยสูงเกินขอบฟ้า และเก็บก่อนที่ พระจันทร์จะเลยหัวไปหรือเมื่อเทียนดอก ใหญ่ดับลง หันโต๊ะไปทางทิศตะวันออก




มรดกโลกของไทยมีกี่แห่ง

ปัจจุบันมีมรดกโลกทั้งหมด 830 แห่ง ใน 138 ประเทศทั่วโลก ซึ่งแบ่งเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม 644 แห่ง มรดกโลกทางธรรมชาติ 162 แห่ง และอีก 24 แห่ง เป็นแบบผสมทั้งสองประเภท แล้วน้องๆ รู้หรือเปล่าคะว่า มรดกโลกของไทย มีอะไรบ้าง

มรดกโลก (UNESCO World Heritage Site) คือสถานที่ ป่าไม้ ภูเขา ทะเลสาบ ทะเลทราย อนุสาวรีย์ สิ่งก่อสร้างต่างๆ รวมไปถึงเมือง ซึ่งคัดเลือกโดยองค์การยูเนสโกตั้งแต่ปี พ.ศ.2515 เพื่อเป็นการบ่งบอกถึงคุณค่าของสิ่งที่มนุษยชาติ หรือธรรมชาติได้สร้างขึ้นมา และควรปกป้องสิ่งเหล่านั้นเพื่อให้ได้ตกทอดไปถึงอนาคต

 ประเทศไทยมีมรดกโลกเป็นที่น่าภูมิใจของเราชาวไทยอย่างมาก ด้วยกัน 5 แห่ง ได้แก่



Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...