สถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม
วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร
ตั้งอยู่ที่ตำบลขุนโขลน อำเภอพระพุทธบาท ห่างจากจังหวัดสระบุรีประมาณ 28 กิโลเมตร
พระมณฑป
สร้างในสมัยพระเจ้าทรงธรรม เดิมเป็นมณฑปยอดเดียว ได้รับการเปลี่ยนเครื่องบน แปลงให้เป็นพระมณฑป 5 ยอดในสมัยพระเจ้าเสือ ภายในเป็น “มณฑปน้อย” เป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาท สร้างในสมัยพระเจ้าทรงธรรม แต่เดิมมีทองคำหุ้มอยู่ ต่อมาถูกพวกจีนซึ่งอาสา ต่อสู้กับพม่าลอกเอาทองคำไป รัชกาลที่ 1 ได้ทรงปฏิสังขรณ์เมื่อ พ.ศ. 2330 และได้รับการปฏิสังขรณ์เพิ่มเติมในรัชกาลที่ 3 และรัชกาลที่ 4
พิพิธภัณฑ์สถานพระพุทธบาท
ในบริเวณวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหารได้มีพิพิธภัณฑ์สถานพระพุทธบาท เป็นที่เก็บรวบรวมศิลปวัตถุอันมีค่ายิ่ง อาทิเช่น เครื่องทรงของสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม เครื่องลายครามสังคโลก เครื่องทองสำริดโบราณ ศาสตราวุธโบราณ รอยพระพุทธบาทจำลองยอดมณฑปพระพุทธบาทเก่า พัดยศของพระสมัยต่างๆ และท่อประปาสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
บ่อพรานล้างเนื้อ
ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงวัดพระพุทธบาท มีลักษณะเป็นบ่อหินขนาดย่อม ภายหลังได้มีการเปลี่ยนแปลงก่อเสริมปากบ่อขึ้นที่บริเวณปากบ่อมีรอยเข่าคน ใกล้บริเวณบ่อนี้มีหินลาดและมีหลุมลึกลงไปมีขนาดเท่ากระป๋องนม น้ำที่ไหลจากหลุมนี้ถือกันว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ มีประวัติเล่ากันว่าพรานบุญผู้พบรอยพระพุทธบาทเป็นผู้นำเนื้อมาล้างที่บ่อ โดยคุกเข่าและก้มลงล้างเนื้อในบ่อ ส่วนหลุมขนาดเท่ากระป๋องนมนั้น คือรอยปักหอกของพรานบุญซึ่งมีน้ำไหลออกมาไม่ขาดสาย
พระราชวังโบราณ (พระตำหนักท้ายพิกุล)
พระราชวังโบราณหรือตำหนักท้ายพิกุล ตั้งอยู่ติดกำแพงวัดพระพุทธบาทด้านทิศเหนือ พระราชวังนี้พระเจ้าทรงธรรมทรงสร้างพร้อมกับบริเวณวัดพระพุทธบาท เพื่อเป็นที่ประทับเวลาเสด็จขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาท ได้ชำรุดทรุดโทรมหักพังไปหมด เหลือเพียงกำแพงวังและฐานพระตำหนัก ฐานเกยช้าง – ม้า ต่อมาสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้สร้างพระตำหนักทับบนฐานเดิม ปัจจุบันไม่มีซากตำหนักเหลือปรากฏอยู่ คงมีแต่ซากกำแพงเป็นเขตอยู่โดยรอบและที่เกยช้าง
พระตำหนักธารเกษม
ตั้งอยู่ที่ตำบลขุนโขลน อำเภอพระพุทธบาท (ในพื้นที่ของสถานสงเคราะห์เด็กหญิงจังหวัดสระบุรี) เป็นตำหนักที่สมเด็จพระเจ้าปราสาททองโปรดฯ ให้สร้างเป็นที่ประทับเมื่อคราวเสด็จนมัสการรอยพระพุทธบาท ณ ริมธารน้ำใต้ธารทองแดง ซึ่งเป็นที่มีแมกไม้ร่มรื่นเป็นที่สำราญพระราชหฤทัย เวลานี้หักพังหมดแล้วคงเหลือแต่อิฐและปูนปรากฏให้เห็น
พระตำหนักสระยอ
ตั้งอยู่ที่ตำบลขุนโขลน อำเภอพระพุทธบาท ซึ่งพระเจ้าปราสาททอง โปรดฯ ให้สร้างพลับพลาตามเส้นทางที่เสด็จไปนมัสการรอยพระพุทธบาท ลักษณะฐานรากของตำหนักเป็นก้อนหินนำมาก่อเสาปูนลักษณะเหมือนกับตำหนักต่างๆ ในบริเวณอำเภอพระพุทธบาท ที่สร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย เช่น ตำหนักธารเกษม เป็นต้น
ถ้ำเทพนิมิตธารทองแดง
อยู่ที่วัดพุคำบรรพต ตำบลพุคำจาน เป็นแหล่งโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ได้พบโบราณวัตถุของมนุษย์สมัยหินใหม่ตอนปลาย มีลักษณะคล้ายกับที่ขุดพบที่บ้านท่าแค บ้านดีลัง และซับจำปา ที่ลพบุรี สันนิษฐานว่ามนุษย์สมัยนั้นในบริเวณดังกล่าวอาจมีความสัมพันธ์กัน ปัจจุบันไม่มีโบราณวัตถุอยู่ในถ้ำแล้ว
ธารทองแดง
เป็นธารน้ำธรรมชาติอยู่ห่างจากอำเภอพระพุทธบาทประมาณ 3 กิโลเมตร ต้นธารเกิดจากเขาธารทองแดงในเขตอำเภอพระพุทธบาทและไหลลงไปทาง อ.หนองโดน สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง โปรดฯ ให้สร้างพระตำหนักริมลำธาร[1] ได้มีการขุดพบท่อน้ำสามตาที่ริมลำธาร (ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์สถานพระพุทธบาท) ท่อนี้เป็นข้อต่อเหมือนท่อประปาปัจจุบันแต่ใหญ่กว่ามาก เป็นท่อที่ทำด้วยทองแดงขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 20 ซม. และในบริเวณธารทองแดงนี้ยังพบที่กั้นน้ำ ที่ระบายน้ำมาใช้ภายในพระตำหนักท้ายพิกุล เป็นเขื่อนก่อด้วยอิฐถือปูน ซึ่งเป็นซากโบราณสถานที่สร้างมาแต่สมัยอยุธยา ปัจจุบันนี้ยังเห็นสภาพเป็นลำธารแต่ตื้นเขินมากแล้ว ที่ริมลำธารมีแนวเขื่อนก่ออิฐถือปูนปรากฏอยู่[2]
ถ้ำศรีวิไล
ภายในถ้ำมีพระพุทธเนาวรัตน์ ศิลปะสร้างเลียนแบบสมัยเชียงแสน และยังมีหินงอก หินย้อย สวยงามมาก และสามารถเที่ยวชมทิวทัศน์ตามธรรมชาติ จะเห็นภูเขาสลับซับซ้อนสวยงาม ตั้งอยู่บริเวณวัดถ้ำศรีวิไล ตำบลหน้าพระลาน ระยะทางห่างจากตัวจังหวัด ประมาณ 22 กิโลเมตร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น